10 ต้นไม้ต้องห้าม ที่ไม่ควรปลูกในบริเวณบ้าน Mastery Resolution - บริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ครบวงจร

NEWS & ARTICLES

21 Dec 2022 1963 VIEWS

10 ต้นไม้ต้องห้าม ที่ไม่ควรปลูกในบริเวณบ้าน


POSTED BY Mastery Resolution

 🌳🌹 ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการจะตกเเต่งบ้านให้สวยน่าอยู่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการตกเเต่งภายในบ้านนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ
        แต่การตกเเต่งภายนอกนั้นก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน
        การหาต้นไม้มาปลูกภายในบริเวณบ้าน สำหรับเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนนับว่าเป็นความสุขอย่างนึงเลยก็ว่าได้  😀
        แต่ก็ใช่ว่าต้นไม้ทุกชนิดจะสามารถนำมาปลูกภายในบริเวณบ้านได้เสมอไป 
        ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์ 🧙‍♀ หรือทางหลักวิทยาศาสตร์ 🧪

                    เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันเลยดีกว่าว่า▶️▶️
    10 ต้นไม้ต้องห้าม🌲❌ ที่ไม่ควรปลูกในบริเวณบ้านนั้น  มีต้นอะไรกันบ้าง🌳


                  

🌺ต้นชวนชม🌺 

A picture containing text, bouquet, flower, plant

Description automatically generated

 

        ชวนชม ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ชวนชม เชื่อว่าหากปลูกไว้ในบ้านแล้วนั้นจะทำให้เกิดความนิยมชมชอบเพราะมีชื่ออันเป็นมงคล ซึ่งชวนชมเป็นพรรณไม้ที่มีสีสันของดอกสวยงาม เป็นไม้ที่ปลูกง่าย เลี้ยงง่าย

ทนต่อสภาพอากาศแห้งแล้ง ลำต้นและกิ่งก้านกลมเรียบสีเขียวแกมเทา ออกดอกเป็นช่อสั้นที่ปลายกิ่ง ซึ่งจะมีหลากสีหลายพันธุ์ตามแต่จะเพาะเลี้ยงให้เกิดตามการสลับสี และในปัจจุบัน ชวนชม ถือเป็นหนึ่งสายพันธุ์ที่มีการนำไปประกวดระดับประเทศและมีราคาแพงมากจึง ทำให้นิยมปลูกเป็นไม้ประดับกันอย่างกว้างขวาง
        แต่สิ่งที่ทำให้ชวนชมเป็นต้นไม้ห้ามปลูกในบ้านนั้นเนื่องจากว่า ทั้งต้นสด เปลือก และเมล็ด ทุกส่วนนั้นมีน้ำยางสีขาวที่มีในทุกส่วนของต้น ซึ่งมีสารพิษ abobioside และ abomonoside
มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของหัวใจ หัวใจจะเต้นเร็วกว่าปกติ ซึ่งน้ำที่คั้นจากกิ่งอ่อน หากกินเข้าไปจะทำให้เป็นตะคริว หรืออัมพาตที่กราม และกระเพาะปัสสาวะ เคยมีการใช้เบื่อปลา และผสมเป็นยาพิษอาบหัวลูกดอก

        ซึ่งถ้าหากถูกผิวหนังก็จะทำให้ผิวหนังเกิดอาการอักเสบเป็นผื่นแดงคัน ถ้าหากเข้าตา ตาก็จะอักเสบปวดแสบปวดได้ หรือหากบังเอิญกินเข้าไปจะทำให้กรามเป็นตะคริว หัวใจเต้นเร็วและแรงขึ้น อาจทำให้หัวใจวายได้สำหรับคนแพ้ และถ้าสัตว์เลี้ยงกัดหรือกินเข้าไปก็จะมีผลต่อการเต้นของหัวใจ และอาจทำให้เกิดอันตรายถึงตายได้

 

 

🪴ต้นปรง🪴

Diagram

Description automatically generated

 

        ด้วยความที่มีรูปทรงแปลก ลำต้นเป็นกอ ใบยาว แต่สวย เก๋ และเหมาะที่จะนำมาตกแต่งบ้าน  ต้นปรง จึงถูกยกให้เป็นไม้ประดับยอดนิยมอีกหนึ่งชนิดของคนไทย ซึ่งต้องบอกว่า ต้นปรง นั้นมีมาตั้งนานมากแล้ว เพราะปรงถือเป็นพืชโบราณที่มีบรรพบุรุษอยู่ในยุคของไดโนเสาร์ ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมากที่ยังคงหลงเหลือปลงอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้ต้นปรงจัดอยู่ในกลุ่มพืชอนุรักษ์ในบัญชีไซเตส (CITES) แล้ว เนื่องจากกำลังถูกคุกคามอย่างรุนแรงในธรรมชาติ

         ปรง มีรูปทรงที่แปลก แต่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ แถมยังมีประโยชน์เพราะเมล็ดของปรงยังนำไปสกัดเพื่อใช้เป็นแป้งสาคูทำขนมได้ด้วย แต่ต้องรู้ถึงวิธีการนำสารพิษออกจากเมล็ดให้ได้ก่อน แถมที่สำคัญ เมล็ดของปรงยังนำไปสกัดเป็นยาสมุนไพรใช้รักษาโรคต่าง ๆ   โดยชาวป่าทางภาคเหนือนิยมนำยางปรงมาทำเป็นยาทาแผลอักเสบ ดูดหนองฝี และดับพิษ ส่วนบริเวณหัวของปรงก็นิยมนำไปฝนแล้วปรุงกับเหล้า ใช้ในการสมานแผล แก้บวม แก้ฟกช้ำ รวมถึงใช้รักษาแผลเรื้อรังได้เป็นอย่างดี ส่วนดอกของปรง ก็จะถูกนำมาใช้ในการบำรุงร่างกาย แก้ลม และแก้เสมหะ บริเวณลำต้นก็นำมาตำหรือบดแล้วใช้สระเพื่อบำรุงและรักษารากผมได้  

ถึงแม้จะมีประโยชน์และสรรพคุณเพียบ แต่ปรงก็มีพิษ ซึ่งอยู่ในส่วนยอดและเมล็ดด้วย โดยสารพิษตัวที่พบในปรงมีชื่อว่า Cycasin ถ้าหากอยู่ในสภาวะกรด (ในกระเพาะอาหาร) ก็จะสลายตัวให้เมทานอล ทำให้เกิดอาการปวดหัว ปวดหลัง ปวดท้อง อาเจียน หายใจขัด สั่น และตามัว ซึ่งถ้าหากได้รับพิษมาก ๆ ก็อาจจะตาบอดหรือร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

         “ต้นปรง” ชื่อที่ฟังแล้วรู้สึกเหมือนกับการ "ปลง" ในชีวิต ซึ่งพอได้ยินแล้วอาจทำให้เกิดความรู้สึกเหนื่อย ท้อแท้ หรือเก็บความผิดพลาดเก่าๆ มาย้ำคิด และทำให้ชีวิตนั้นไม่มีความสุขแล้ว คนส่วนใหญ่ยังมักนิยมนำใบไปประดับตกแต่งหีบศพหรือทำพวงหรีดอีกด้วย จึงเหมือนนำความไม่เป็นมงคลเข้าบ้านนั่นเอง

 


🌱ต้นฟิโลเดนดรอน🌱

Diagram

Description automatically generated

 

       ต้นฟิโลเดนดรอน เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดหลักในลุ่มแม่น้ำอะเมซอน ด้วยพื้นที่แถบลุ่มแม่น้ำอะเมซอนนั้นมีภูมิอากาศที่เป็นประเภทป่าดิบชื้นหรือป่าฝนเขตร้อน ซึ่งลักษณะคล้ายกับประเทศไทย คือ เป็นป่าที่มีสีเขียวตลอดทั้งปี ต้นไม้จะไม่มีการผลัดใบในช่วงฤดูแล้ง เนื่องด้วยปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก ทำให้ต้นฟิโลเดนดรอนสามารถปลูกในไทยได้ไม่ยาก และนับว่าเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นไม้ที่ปลูกง่าย ไม่ต้องการการดูแลมากนัก ซึ่งหลายคนอยากซื้อมาปลูก แม้ว่าความสวยงามของใบฟิโลเดนดรอนจะตราตรึงใจให้ใครหลายคน แต่ก็มีข้อควรรู้บางอย่างก่อนการซื้อ เพราะแท้จริงแล้วต้นไม้อย่างต้นฟิโลเดนดรอนเป็นต้นไม้ที่มีพิษ  ซึ่งสารนี้เรียกว่า "สารแคลเซียมออกซาเลท" ที่มีองค์ประกอบเป็นพิษ อาจจะก่อให้เกิดความอันตรายแก่ผู้เลี้ยงได้โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่แพ้ง่าย เมื่อไปสัมผัสโดนเนื้อเยื่อของต้นฟิโลเดนดรอนแล้วจะทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณที่สัมผัสได้ เกิดเป็นรอยแดง รอยไหม้ ยิ่งถ้าหากอาการไม่ได้เกิดทันที แล้วมือไปโดนปากหรือหน้าจะทำให้เกิดอาการบวมแดงมากกว่าเดิมได้ นอกจากนี้ยังจะต้องระวังบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงที่อาจจะไปกินต้นฟิโลเดนดรอน จนส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและระบบย่อยอาหาร อาการที่สังเกตได้ คือ น้ำลายไหล ลิ้นบวม อาเจียน หายใจและกลืนลำบาก สิ่งที่สำคัญ คือ ควรปลูกให้ห่างจากเด็กเล็กและสัตว์ ดังนั้นผู้ที่ต้องการปลูกต้นไม้ชนิดนี้และที่บ้านมีสัตว์เลี้ยง ควรนำไปวางไว้บนที่สูงเพื่อห่างจากสัตว์เลี้ยงและเด็ก

 

 

🪴ต้นสาวน้อยประแป้ง🪴

Diagram

Description automatically generated

 

         สาวน้อยประแป้ง เป็นต้นไม่ที่นิยมปลูกเพื่อประดับต้น และใบเป็นหลัก เนื่องจาก แผ่นใบมีขนาดใหญ่ พื้นมีสีเขียว และมีลายประสีขาวทั่วใบ ซึ่งดูแปลกตา และสวยงาม ลายประสีขาวนี้ ถือเป็นที่มาของชื่อ สาวน้อยประแป้งนอกจากจะปลูกเพื่อประดับต้น และใบแล้ว ผู้ที่นิยมปลูกยังมีความเชื่อว่า เป็นพรรณไม้ที่คอยให้โชคลาภ ช่วยคุ้มครองภัย และช่วยให้ผู้ปลูกมีอายุยืนยาว

        แต่ใช่ว่าจะมีแต่ความสวยแปลกตาแล้ว ในทุกส่วนของต้นสาวน้อยประแป้งนั้นยังมีสารพิษ เมื่อน้ำยางสัมผัสโดนผิวหนัง สารละลายของผลึก "แคลเซียมออกซาเลท" จะทำให้เกิดผื่นแดง และเกิดอาการคันมากและถ้าหากน้ำยางเข้าสู่ทางเดินระบบอาหารด้วยการกลืนกิน จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองทางเดินอาหาร รู้สึกปวดร้อน ทั้งในปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม ลำคอ และทางเดินระบบอาหาร เกิดอาการปวดบริเวณท้อง รวมถึงโปรตีน และเอนไซม์บางชนิดที่ย่อยโปรตีนได้จะเข้าทำลายเยื่อบุในช่องปาก ทำให้ปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม และคอ เกิดอาการบวมพอง เป็นตุ่มน้ำใสๆ ผู้ที่ได้รับพิษเข้าไป จะทำให้กลืนน้ำลาย และอาหารลำบาก รวมถึงพูดไม่ได้ และถ้าหากได้รับน้ำยางมากเกินไปจะทำลายระบบอวัยวะภายในและอาจทำให้ถึงตายได้

 

🎋ต้นยี่โถ🎋

A picture containing diagram

Description automatically generated

                   

          ยี่โถ ถือเป็นหนึ่งสายพันธุ์ดอกไม้ ที่มีสีสันสดใสสวยงาม แถมยังมาพร้อมกับกลิ่นที่หอม จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเหตุใดยี่โถจึงเป็นหนึ่งในไม้ดอกที่ได้รับความนิยมและมักนำมาปลูกไว้ในครอบครอง เพราะเป็นดอกไม้ที่ทนทาน และยังไม่ต้องการการประคบประหงมดูแลมากมาย  และยังสามารถนำมาใช้ต้มทำสีย้อมผ้าหรือกระดาษได้อีกด้วย 

เมื่อครั้งโบราณกาลมีความเชื่อเกี่ยวกับต้นยี่โถว่า ถ้าหากบ้านไหนที่มีลูกหลานที่ดื้อรั้น หัวชนฝา ไม่เชื่อฟังพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ ให้พ่อแม่ใช้กิ่งของต้นยี่โถที่มีความเหนียวของยางมาตีลูกหลานเหล่านั้น เนื่องจากจะทำให้ลูกหลานเชื่อฟังมากขึ้น เลิกดื้อเลิกซนจนกลายเป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่ ผู้ใหญ่ แต่นี้เป็นเพียงความเชื่อในสมัยก่อนเท่านั้น การตีลูกไม่ได้เป็นทางออกของการแก้ปัญหาการดื้อซนของลูกหลานเสมอไป

        ต้นยี่โถมีฤทธิ์เป็นยาสมุนไพรหลายขนาน ผลและเมล็ดใช้ขับปัสสาวะ ดอกใช้แก้อาการอักเสบ ปวดศีรษะ ใบใช้เป็นยารักษาโรคหัวใจ ลดอาการบวม แก้ไข้มาลาเรีย ส่วนรากใช้บรรเทาอาการกลากเกลื้อน เปลือกและลำต้นใช้แก้โรคเรื้อนรวมถึงแผลพุพอง  แต่ใช่ว่าจะมีแต่คุณสมบัติเท่านั้นมันยังแอบแฝงไปด้วยพิษที่ร้ายแรงจนอาจทำให้ตายได้ คือ Cardiac Glycosides กลุ่มสารพิษที่แทรกซึมอยู่ ในลำต้น ใบ ซึ่งมีน้ำยางที่จะสร้างอาการระคายเคืองเป็นแผลพุพองเอาไว้ เพราะหากเผลอถึงขั้นกลืนน้ำยางเข้าไป เยื่อบุด้านในปากและกระเพาะอาหารจะเริ่มระคายเคือง ต่อด้วยอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มองเห็นผิดปกติ หูอื้อ เพ้อ ความดันตก ชีพจรต่ำ กล้ามเนื้อหัวใจไม่บีบตัว จนกระทั่งหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตในที่สุด

 

 

🌸ต้นลั่นทม🌸

Diagram

Description automatically generated

 

        ต้นลีลาวดี ลั่นทม หรือ จำปาลาว นั้นเป็นดอกไม้ประจำชาติลาว เพราะ เกี่ยวพันธ์ถึงวิถีชีวิตของชาวลาวมาอย่างยาวนาน ทั้งในด้านการใช้เป็นยาสมุนไพรรักษาโรค อาทิ ใบใช้รักษาโรคหืด คนลาวจึงนิยมเอาใบมาอบกรอบแล้วกิน หรือ ผสมกับพลูใช้เป็นยาแก้ไอ ด้านงานมงคลชาวลาวนิยมนำดอกจำปาลาวมาลอยในน้ำหอม (น้ำอบ) เพื่อใช้ในพิธีรดน้ำดำหัว และใช้สรงน้ำพระในวันสงกรานต์ หลังจากการสรงน้ำพระพุทธรูปนี้ชาวลาวก็จะนำน้ำมนต์ กลับไปบ้านเรือนของตนเองเพื่อนำไปอาบเสริมสิริมงคล ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับประเพณีของไทยเรา

แถมยังมีสรรพคุณและประโยชน์ต่างๆ ดังนี้

ดอก ใช้ดอกตากแห้ง ต้มน้ำกินต่างชาได้ มีรสชุ่ม แก้ไอ บำรุงปอด รักษาอาการร้อนใน ท้องผูกและแก้บิด หรือใช้ดอกรับประทานกับใบพลู จะช่วยแก้ไข้ และแก้ไข้มาลาเรีย

เปลือกลำต้น ใช้เปลือกแห้ง บดเป็นผง ชงกับน้ำร้อน ร่วมกับน้ำมะขามเปียก วันละ 4-5 ครั้งติดต่อกัน จะช่วยขับปัสสาวะและถ่ายดีขึ้น

เปลือกราก ใช้รักษาโรคหนองในและกามโรค ซึ่งจะมีสารฟัลโวพลูมีริน (Fulvoplumierin) สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อที่ทำให้เกิดเนื้องอกเป็นก้อน

ดอกแห้ง ใช้แก้ไข้ และแก้ไข้มาลาเรีย โดยใช้ดอก ต้มน้ำ แล้วกรองเอาน้ำดื่ม วันละ 1-2 เวลา เช้าและเย็น หรือใช้ดอกรับประทานกับใบพลูก็ได้

        ถึงแม้มีสรรพคุณและประโยชน์มากมาย แต่หากไม่มีการศึกษาวิธีการนำไปใช้ก็อาจเกิดอันตรายได้ ทุกๆ ส่วนของลีลาวดีจะมียางสีขาวขุ่นซึ่งเป็นพิษ นั่นคือ กรดพลูเมอริก (Plumeric acid) หากสัมผัสยางโดยตรงอาจทำให้เกิดผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ และบวมแดงได้ ดอกลีลาวดีมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง ระคายกระเพาะอาหารและลำไส้ ห้ามสตรีมีครรภ์รับประทานดอกลีลาวดี เพราะอาจทำให้มดลูกบีบตัวและอาจแท้งได้

ลีลาวดีหรือ ลั่นทม เป็นไม้ดอกชนิดยืนต้น ในบ้านเรามีความเชื่อมาแต่โบราณว่าไม่ควรปลูกต้นลั่นทมไว้ในบริเวณบ้าน เนื่องจากมีชื่ออัปมงคล เพราะไปพ้องกับคำว่าระทม ซึ่งแปลว่า ความทุกข์ใจ เศร้าโศกนั่นเอง แต่ได้มีการเปลี่ยนมาเรียกชื่อใหม่แทนซึ่งก็คือ ลีลาวดี”

 




💐ต้นไฮเดรนเยีย💐

A picture containing text, flower, plant

Description automatically generated

 

.        ไม้ดอกที่มีสีสันสวยงาม มีลักษณะลำต้นเป็นทรงพุ่มสูง ออกใบกว้างและขอบใบหยัก ลักษณะดอกออกเป็นช่อและมีดอกย่อย ๆ  แต่ละชนิดก็ออกดอกสีสันแตกต่างกันออกไป มักนำมาใช้ตกแต่งแจกันหรือช่อดอกไม้  ดอกไฮเดรนเยีย เป็นหนึ่งในพืชไม่กี่ชนิดที่สะสมแร่ธาตุ Alumium ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด สารสกัดจากดอกนั้นอุดมไปด้วยสาร แอนตี้ออกซิแดนซ์ ซึ่งช่วยฟื้นฟู่และบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งดูมีชีวิตชีวา และปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยอันควร

        แต่ภายใต้ความสวยงามนั้นซ่อนพิษร้ายแรงเอาไว้จนขึ้นชื่อว่าเป็นต้นไม้ห้ามปลูกในบ้าน ซึ่ง ดอกไฮเดรนเยียมีสารพิษ “ไซยาไนด์”  แม้พิษของมันจะไม่ร้ายแรงเทียบเท่าไซยาไนด์ แต่ก็นับว่าใกล้เคียง เพราะเมื่อจัดอันดับดอกไม้ที่มีพิษร้ายแรง ไฮเดรนเยีย ก็ติดอยู่ในอันดับเช่นกัน สำหรับพิษของดอกไฮเดรนเยียก็จะออกฤทธิ์ คล้ายๆกับไซนาไนด์ คือ ถ้าไปเก็บต้นมันมากินโดยไม่ต้มฆ่าเชื้อ เน้นว่า ต้น เพราะไฮเดรนเยียมีพิษทั้งต้น ก็จะเกิดอาการดังนี้ คือ แต่ถ้ากินไปในปริมาณน้อย ก็อาจจะเพียงแค่เวียนศีรษะ หรืออาเจียน แต่ยังไงเสียก็มีพิษที่ค่อนข้างอันตราย ดังนั้น ส่งโรงพยาบาลและให้ทำการล้างท้องทันที เช่นเดียวกัน ถ้ากินแบบในปริมาณที่มาก ก็จะเกิดอาการ หน้าซีด ตัวเหลือง ครั่นตัว ครั้นตัว เวียนหัว อาเจียน และจะมีลมหายใจออกมาเป็นกลิ่นไซยาไนด์ ถ้าไม่รีบส่งโรงพยาบาล จะเปิดอาการช็อค และหัวใจวายตายได้ ดังนั้นแล้วไฮเดรนเยียนั้น เป็นดอกไม้ที่สมควรเอาไว้ดูอย่างเดียว ไม่ควรไปสูด ไปดม หรือเด็ดมากินเป็นอันขาด

 

 

 🌺ต้นเฟื่องฟ้า🌺

A picture containing text, flower, bouquet, plant

Description automatically generated

 

        ต้นเฟื่องฟ้า จัดเป็นไม้ยืนต้นประเภทพุ่มกึ่งเลื้อย มีอายุยืนหลายสิบปี ลักษณะของทรงพุ่มสามารถตัดแต่งและบังคับทิศทางการเจริญเติบโตได้ ลำต้นมีลักษณะกลมใหญ่ เนื้อแข็ง ผิวเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาล ลำต้นเปราะและหักได้ง่าย มีหนามขึ้นตามลำต้นอยู่เหนือใบ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนกิ่ง การปักชำกิ่ง เสียบยอด เจริญเติบโตได้ดีในดินปนทรายระบายน้ำดี ชอบความชื้นต่ำและแสงแดดแบบเต็มวัน ซึ่งสรรพคุณของมันก็มีมากมาย

ดอกเฟื่องฟ้า มีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจและระบบขับถ่าย ช่วยบำรุงโลหิตและใช้แทนเครื่องหอมได้ด้วย ดอกเฟื่องฟ้า มีรสขมฝาด เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อตับ ใช้เป็นยาแก้ประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี รักษาสตรีที่ประจำเดือนไม่มาหรือมุตกิดตกขาวของสตรี ด้วยการใช้ดอกที่เป็นยาแห้ง นำมาต้มกับน้ำรับประทาน ในประเทศจีนจะไม่นิยมนำมาใช้ทำยา แต่ในประเทศไทยจะมีการนำรากมาใช้เป็นยาแก้พิษต่าง ๆ

.        เฟื่องฟ้า” ชื่ออาจจะดูไพเราะ แต่ก็มีความเชื่อว่าถ้าปลูกเอาไว้ในบ้านแล้วคนในบ้านจะต้องมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้แยกทางกันอยู่ จัดว่าเป็นต้นไม้อัปมงคล และเป็นต้นไม้ห้ามปลูกในบ้าน
นอกจากนี้ กิ่งก้านของต้นเฟื่องฟ้าจะมีหนามแหลมอยู่เต็มไปหมด ซึ่งหากปลูกไว้ในบ้านหรือใกล้บ้านก็อาจจะเกิดอันตรายกับผู้อาศัยได้




🥭ต้นมะละกอ🥭

Diagram

Description automatically generated

 

.        มะละกอ พืชท้องถิ่น สมุนไพร นิยมรับประทานผลมะละกอเป็นอาหาร สรรพคุณของมะละกอ เช่น ช่วยบำรุงระบบขับถ่าย บำรุงผิวพรรณ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อโดยหลักๆจะนำผลมะละกอดิบมาทำเป็นอาหาร เช่น แกงส้ม ส้มตำ ส่วนผลมะละกอสุกใช้เป็นอาหารยามว่าง รับประทานเป็นผลไม้ รสหวานอร่อย ผลมะละกอช่วยบำรุงร่างกาย มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง

แต่สำหรับผู้ที่รับประทานมะละกอสุกติดต่อกันเป็นจำนวนมาก เป็นเวลานาน อาจทำให้สารมีสีพวก carotenoid ไปสะสมในร่างกายมากเกินไป ทำให้ผิวมีสีเหลือง และยางมะละกอ มีสารพาเพน มีความเป็นพิษต่อทารกในครรภ์ อาจทำให้เกิดภาวะพิการแต่กำเนิดได้ สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของยางมะละกอ ผลมะละกอสุกมีความหวาน สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ก็ไม่ควรรับประทานมะละกอสุกมากเกินไป อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และยางมะละกอมีโปรตีนลาเท็กซ์ (Latex) ซึ่งเป็นโปรตีนในน้ำยางธรรมชาติ หากผู้ที่เป็นภูมิแพ้สัมผัสอาจมีผลทำให้เกิดผื่น คัน ลมพิษบริเวณที่สัมผัส หรือบวม มีน้ำมูก น้ำตาไหลไปจนถึงเป็นหอบ หืด ถ้าเกิดอาการเเพ้อาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้อย่างรุนแรงเฉียบพลันได้

        มะละกอ เป็นต้นไม้ที่ทุกๆคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะผลของมันนำมาทำอาหาร และเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย ต้นมะละกอมีความเชื่อกันว่าถ้าปลูกเอาไว้ในบ้านจะไม่ดี เพราะชื่อของต้นมะละกอ ตีความหมายได้ว่า กอหรือแตกกอ จะทำให้คนในบ้านไม่มีความสุข เพราะต้องแตกแยกจากกันไป มีความเห็นไม่ตรงกัน

 

🌹ต้นว่านสี่ทิศ🌹

Diagram

Description automatically generated

 

        ว่านสี่ทิศ เป็นไม้ดอกไม้ประดับ เพราะมีดอกและสีที่งดงาม และยังถือว่าเป็นว่านมงคลอีกด้วย ในการขึ้นบ้านใหม่คนไทยก็นิยมปลูกว่านสี่ทิศไว้ในบริเวณบ้านด้วยเช่นกัน โดยจะปลูกไว้ทางทิศเหนือ ด้วยเชื่อว่าจะช่วยเสริมดวงให้เจริญก้าวหน้า มีวาสนาบารมี ช่วยปกป้องคุมครองภัยต่างๆ
ว่านสี่ทิศ จัดอยู่ในวงศ์ AMARYLLIDACEAE เช่นเดียวกับกระเทียม กุยช่าย พลับพลึงขาว พลับพลึงแดง พลับพลึงตีนเป็ด หอมแดง และหอมใหญ่ ซึ่งดอกของว่านสี่ทิศจะออกเป็นช่อที่ปลายก้านประมาณ 4-8 ดอก หันไปทั้ง 4 ทิศ ดอกคล้ายรูปถ้วย กลีบดอกมี 6 กลีบ มีทั้งสีแดง สีชมพู และสีขาว จึงนิยมเรียกกันว่า “ว่านสี่ทิศ โดยว่านสี่ทิศจะออกดอกในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน
ต้นว่านสี่ทิศเป็นพรรณไม้อายุสั้นที่ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง เวลาปลูกควรใส่ปุ๋ยสูตรที่มีโพแทสเซียมด้วย เพราะจะช่วยบำรุงหัวให้โต เมื่อดอกโรยก็รดน้ำเลี้ยงต่อไปให้หัวเก็บสะสมอาหารจนถึงต้นฤดูหนาว ไม้หัวส่วนใหญ่จะพักตัวจึงควรงดให้น้ำในช่วงฤดูนี้

แต่ใช้ว่าจะมีแต่ความสวยงามเท่านั้นสรรพคุณของว่านสี่ทิศนั้นก็มีเช่นกัน คือ ใช้รักษาฝีประเภทต่าง ๆ เช่น ฝีมะม่วง ลำมะลอก ฝีหัวเดือย ฝีมะตอย ฝีประคำร้อย ด้วยการใช้หัวนำมาโขลกผสมกับเหล้าโรง 40 ดีกรีแล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็นฝีก็จะทำให้ฝีลดอาการดีขึ้นได้

       เชื่อกันว่าว่านสี่ทิศ ถูกจัดให้เป็นไม้มงคลที่ใช้เสี่ยงทายหากว่าในช่วงที่ว่านสี่ทิศกำลังออกดอกทั้งสี่อยู่นั้น ผู้เลี้ยงคิดจะทำอะไร ก็จะประสบความสำเร็จทุกประการ แต่ถ้าหากว่า ว่านสี่ทิศออกดอกไม่ครบทั้งสี่ดอก หรือออกดอกแค่ 2 หรือ 3 ดอก ก็จะไม่เป็นผลดีแก่ผู้เลี้ยงเหมือนเป็นลางบอกเหตุว่าจะมีสิ่งไม่ดีเกิดแก่ผู้เลี้ยง แต่ถ้าจะหามาปลูกประดับไว้ในบ้านก็คงต้องดูให้ดี ๆ เพราะพืชชนิดนี้มีพิษรุนแรงต่อน้องหมา น้องแมว โดยเฉพาะส่วนที่เป็นดอกของว่านสี่ทิศ หากพิษเข้าสู่ร่างกาย ของน้องหมา น้องแมวจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้องอย่างหนัก สั่นไปทั้งตัว เบื่ออาหาร และเกิดภาวะน้ำลายหลั่งมากผิดปกติ


     แม้ว่าต้นไม้จะให้ทั้งความร่มรื่นร่มเย็นแล้ว 🌳ต้นไม้บางชนิดก็ยังสามารถฟอกอากาศได้ แต่ต้นไม้บางชนิดก็มีข้อเสียเช่นกัน โดยเฉพาะต้นไม้ห้ามปลูก ในรั่วบ้านเหล่านี้ หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง ไม่ควรนำมาปลูกในบ้าน หรือถ้าต้องการจะปลูกจริงๆ ควรจะระมัดระวัง โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก 👶 สัตว์เลี้ยง 🐶เพื่อความปลอดภัยของคุณเเละคนที่คุณรัก 🥰

 

MASTERY RESOLUTION COPYRIGHT 2019