NEWS & ARTICLES

สำหรับคนที่ต้องการขยับขยาย ครอบครัว ย้ายจากบ้านเดิม ไปหาบ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มักจะมองหาบ้านมือ 2 เพราะบ้านมือ 2 นั้น มักมีราคาที่ถูกกว่าบ้านมือ 1 จากหลาย ๆ ปัจจัย

แต่ก็มีอีกหลายคนที่เมื่อซื้อบ้านมือ 2 แล้ว พบกับปัญหา ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่คำนวณไว้ หมดไปหลายแสนบ้าง หมดไปเป็นล้านบ้าง วันนี้เรามาดูกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ที่ต้องคิดคำนวณให้ดี ก่อนจะซื้อบ้านมือ 2

1. ทำเลการเดินทาง
            บ้านมือ 2 บางที่ราคาถูกมาก ๆ ประมาณว่า บ้านเดี่ยว ในราคา ทาวน์เฮ้าส์ ก็มี แต่การเดินทางอาจจะลำบากไปซักหน่อย หรือบางที่อาจไม่มีรถประจำทาง ผ่านเลยก็ได้ ในระยะยาว ถ้าสมาชิกในบ้านไม่ได้มีรถยนต์หลายคัน ค่า taxi ในแต่ละวันอาจจะสูงมากจนเกินไปก็เป็นได้

2. ค่าขนย้าย
            มีบ้านใหม่ ก็ต้องย้ายมาจากบ้านเก่า บางหมู่บ้าน บางโครงการ การย้ายบ้านธรรมดา อาจไม่ธรรมดา เพราะเดี๋ยวนี้บางที่ จะมีกฎเกณฑ์ในการขนย้ายอย่างเช่น ห้ามรถบรรทุกเข้า ห้ามรถ 6 ล้อเข้า ถ้าสามารถขนย้ายได้แค่รถกระบะ บางคนย้ายบ้าน ไม่ทันไรอาจต้องเสียค่าขนย้ายเป็นหมื่น ๆ ก็มีเหมือนกัน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจว่าจะซื้อบ้านที่ไหน ลองแวะสอบถาม นิติบุคคล หรือ ประธานหมู่บ้าน ดูซักนิด เกี่ยวกับข้อกำหนด กฎเกณฑ์ของหมู่บ้านดู เพื่อให้สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น

3. ค่าซ่อมแซม รีโนเวท
            บ้านมือ 2 ส่วนใหญ่ มักจะขายตามสภาพ บางที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ บางที่ขายพร้อม Defect ต้องซ่อมแซม ถ้า เฟอร์นิเจอร์ไหน ไม่ต้องการ ก็กลายเป็นเสียค่าขนย้าย (ทิ้ง) ด้านบนไปอีก แต่ส่วนใหญ่แล้ว ค่า Renovate จะเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อหลาย ๆ คน ประเมินได้ยากที่สุด ดังนั้นการจะซื้อบ้านมือ 2 เราควรดูให้ละเอียดดีพอในระดับหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีเพียงไม่กี่หัวข้อ ของงานซ่อม ที่จะทำให้งบประมาณบานปลาย ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกบ้านหลังไหนแล้ว “อย่าอาย” ที่จะตรวจสอบบ้านให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลังว่าโดนขายบ้านเน่า ๆ มาซ่อมนะ

4. ค่าตกแต่งบ้าน
            ค่าซ่อมบ้านว่าแพงแล้ว รับรองได้เลยว่า งบตกแต่งบ้านนั้นแพงกว่า ! เพราะทุกคนที่มีบ้านล้วนแล้วอยากให้บ้านเราน่าอยู่ที่สุด การวางแผนว่าจะมีการตกแต่งอะไรในบ้านบ้าง จะช่วยลด งบประมาณลงได้มากกว่า 50% เช่น การเลือกว่า ส่วนไหนจะใช้ Furniture ลอยตัว ส่วนไหนเป็น Building หรือส่วนไหนจะกั้นสัดส่วนห้อง

5. ค่าส่วนกลาง
            หลายคนอาจจะสงสัยว่าค่าส่วนกลางของบ้านนั้นจริง ๆ แล้วไม่แพง แต่มีบางคนที่ขายบ้านมือ 2 แบบค้างค่าส่วนกลางไว้ กว่าเราจะมารู้ก็ต้องมารับหนี้ค้างชำระจำนวนหลายหมื่น หรืออาจจะเป็นแสน ก็มี สิ่งที่เลวร้ายสำหรับค่าส่วนกลางค้างจ่ายคือ นิติบุคคลมีสิทธิที่จะฟ้องร้อง และบังคับคดี (แพ่ง) ให้เจ้าของต้องมานั่งชดใช้อีกด้วย ดังนั้น ถ้าแวะนิติฯ ถามเรื่องการขนย้ายแล้ว ลองถามเรื่องค่าส่วนกลางค้างจ่ายดูอีกซักข้อ รับรองว่าจะไม่มีปัญหาภายหลังแน่นอนจ้า

6. ค่าใช้จ่ายวันโอน
            ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ณ วันโอน ปกติแล้วจะเป็นการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขาย ซึ่งอาจต้องเตรียมเงินสดจำนวนหนึ่งไปชำระที่กรมที่ดิน โดยปกติแล้ว ค่าใช้จ่ายวันโอนจะมี ค่าโอน 2% (แล้วแต่ตกลง) คิดจากราคาซื้อขาย (สัญญาซื้อขาย) ที่แจ้งกับกรมที่ดิน , ค่าจดจำนอง 1% ที่ต้องจ่ายให้ธนาคาร กรณีเรายื่นสินเชื่อ ค่าอากร 0.5% ของราคาซื้อขาย ซึ่งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ หากผู้ขายมีการแจ้งว่าจะให้ผู้ซื้อต้องเสีย อันนี้ต้องพิจารณาให้ดี ๆ ว่าผู้ขาย ผลักภาระ ภาษีส่วนอื่นมาให้เราจ่ายแทนหรือไม่ นั่นเอง

7. ราคา
            สุดท้ายคือราคาบ้าน เมื่อเรารวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งหมด ดูแล้ว จะเห็นได้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ นอกเหนือจาก ราคาซื้อบ้าน โดยปกติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือ 1 หรือมือ 2 ก็จะแตกต่างกันแค่เรื่องของ ค่าซ่อมแซม และ ค่าส่วนกลาง เท่านั้นเอง แต่เมื่อดูจากค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้ว จะเห็นได้ว่า การซื้อบ้าน จำเป็นที่จะต้องมีเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อทำให้บ้านที่เราจะซื้อนั้น สมบูรณ์พร้อมอยู่อย่างมีความสุข

            เห็นแบบนี้แล้ว บางคนที่คิดจะซื้อบ้าน อาจจะเริ่มกังวลว่า แบบนี้ต้องเก็บเงินอีกเท่าไหร่ให้พอ ถึงจะสามารถซื้อบ้านได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่อง ค่าใช้จ่าย ซึ่งก็จะมีเหมือนกัน สำหรับบ้านที่เราสามารถซื้อได้ในราคา “ต่ำ” กว่าราคาประเมิน ซึ่งเราสามารถยื่นกู้ได้เต็มวงเงิน และนำเงินนั้นมาปรับปรุง ซ่อมแซม ตกแต่ง และจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการซื้อบ้านได้

            สำหรับใครที่สนใจบ้านในราคาต่ำกว่าราคาประเมิน สามารถ สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คลิ๊กเลย http://pixelfy.me/MessageFB