06 Feb 2022 | 6434 VIEWS |
หลอดไฟ 3 สี เลือกใช้ให้ดี เพื่อความสวยงาม และถนอมสายตา
การเลือกหลอดไฟสำหรับใช้งานในบ้าน ตามห้องต่าง ๆ นอกจากเลือกที่ชนิดของหลอดไฟ เลือก watt การเลือกแสงสีของหลอดไฟก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะแสงจากหลอดไฟ สามารถส่งผลไปถึงอารมณ์ ความรู้สึกของผู้พบเห็น หลอดไฟที่มีแสงสีต่างกัน จึงสามารถปรับอารมณ์ และเสริมสร้างบรรยากาศในห้องให้แตกต่างกัน รวมไปถึงการเลือกสีของหลอดไฟที่เหมาะสมกับการใช้งาน ยังช่วยถนอมสายตาของเราไม่ให้เหนื่อยล้าได้อีกด้วย
สีของหลอดไฟปัจจุบันที่มีขาย จะถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนสีหลัก ๆ คือ
1.หลอดไฟวอร์มไวท์ (Warm white)
หลอดไฟวอร์มไวท์ (Warm white) มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 2,000 – 3,000 เคลวิน ให้แสงสีเหลืองเข้ม ไปจนถึงสีส้ม ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น โรแมนติก ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ทั้งยังเป็นแสงไฟที่สบายตาที่สุด
2.หลอดไฟคูลไวท์ (Cool white)
หลอดไฟคูลไวท์ (Cool white) มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 4,000 – 5,000 เคลวิน ให้แสงสีขาวในโทนอุ่น มีความนวล ความสว่างจะอยู่กึ่งกลางระหว่าง หลอดไฟวอร์มไวท์ กับ หลอดไฟเดย์ไลท์ เป็นแสงไฟที่ให้ความสบายตา ทั้งยังให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา
3.หลอดไฟเดย์ไลท์ (Daylight)
หลอดไฟเดย์ไลท์ (Daylight) มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 6,000 เคลวิน ให้แสงสีขาวที่เหมือนแสงในธรรมชาติ ถือเป็นแสงสีที่สว่างมากที่สุด ช่วยให้มองเห็นได้ชัด ทั้งยังให้ความรู้สึกสดใส กระปรี้ประเปร่า ช่วยให้กระฉับกระเฉง และรู้สึกตื่นตัว
เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วเรามาดูกันดีกว่า ว่า ไฟแต่ละช่วงสี เหมาะกับพื้นที่ใช้งานแบบไหนกันดี ?
หลอดไฟสำหรับห้องทำงาน
ห้องทำงานที่ดี ควรสร้างบรรยากาศให้สว่างสดใส จะทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง และ active อยู่ตลอดเวลา การเลือกใช้หลอดไฟเดย์ไลท์ จะเหมาะสมที่สุด อีกทั้ง แสงสีของหลอดไฟ จะมีความสว่างมากเพียงพอ และยิ่งสำหรับ ผู้ที่ทำงานสายออกแบบ การเลือกแสงสีโทนนี้ จะช่วยไม่ให้สีของชิ้นงาน หรือการออกแบบผิดเพี้ยนไปจากเดิม และควรหลีกเลี่ยงการใช้หลอดไฟวอร์มไวท์
หลอดไฟสำหรับห้องนอน
หลอดไฟในห้องนอน ควรเลือกสีที่ให้บรรยากาศ อบอุ่น สงบ ผ่อนคลาย หลอดไฟที่เหมาะสมที่สุดจะเป็นหลอดไฟวอร์มไวท์ โทนสีส้ม จะทำให้สบายตา และรู้สึกสงบ ช่วยให้นอนหลับสนิทมากยิ่งขึ้น
*ข้อควรระวัง สำหรับใครที่มีพื้นที่แต่งหน้าในห้องนอน ควรมีโคมไฟ ที่ใช้หลอดไฟเดย์ไลท์ ให้ความสว่างในการใช้งาน เพื่อป้องกันโทนสีผิดเพี้ยนในระหว่างการแต่งหน้า และลงเมคอัพ
หลอดไฟสำหรับห้องนั่งเล่น และห้องรับแขก
พื้นที่นี้จะสามารถใช้หลอดไฟได้ทั้ง 3 แบบเลย โดยความเหมาะสมนั้นจะอยู่ที่ ความชอบของแต่ละบุคคลเสียมากกว่า สำหรับคนที่ต้องการเน้นไปที่การ นั่งดูหนังหรือทีวี อยากได้บรรยากาศแบบโรงหนัง หลอดไฟวอร์มไวท์ จะช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีที่สุด แต่ถ้าสำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องสายตา ใส่แว่นดูโทรทัศน์ การใช้หลอดไฟคูลไวท์ จะช่วยตัดแสงจากหน้าจอทีวี และปรับความสว่างในการดูทีวี ได้ดีที่สุด
หลอดไฟสำหรับห้องน้ำ
พื้นที่ห้องน้ำ การเลือกใช้หลอดไฟเดย์ไลท์ จะทำให้ห้องน้ำสว่าง และดูกว้างขึ้นมากกว่าเดิม อีกทั้งยังดูสะอาดตามากยิ่งขึ้นด้วย แต่สำหรับบางคนที่มีอ่างอาบน้ำในห้องน้ำ ชอบบรรยากาศแบบสปา ผ่อนคลาย อาจใช้หลอดไฟวอร์มไวท์ แทนช่วยเสริมสร้างบรรยากาศตอนจุดเทียนอโรม่า แช่น้ำร้อน แค่นี้ก็ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าสปาแพง ๆ แล้ว
หลอดไฟสำหรับห้องครัว
ห้องครัวเป็นพื้นที่ประกอบอาหาร และต้องใช้การสังเกตที่ดี การเลือกใช้หลอดไฟเดย์ไลท์ จะทำให้แสงสว่างทั่วถึง มองเห็นสีของอาหาร และการปรุงอาหารได้อย่างชัดเจน อีกทั้งในด้านบรรยากาศจะทำให้เกิดความคล่องตัว active ซึ่งปลุกให้ประสาทตื่นตัวได้ดียิ่งขึ้น และลดการเกิดอุบัติเหตุทางอ้อมได้อีกด้วย
เราจะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้วโทนสีของหลอดไฟ นอกจากความสวยงามแล้วยังมีประโยชน์ทางอ้อมต่อผู้ใช้งานอีกมากมาย บางคนรู้สึกไม่ active ในการทำงาน บางคนนอนไม่ค่อยหลับ บางทีลองกลับมามองเรื่องใกล้ตัว อาจจะพบว่าหลอดไฟมันส่งผลกระทบตรง ๆ เลยก็เป็นได้
ส่วนตอนนี้ แอดมินขอไปเปลี่ยนหลอดไฟห้องนอนให้เป็น โทนวอร์มไวท์ก่อนแล้วจ้า
MASTERY RESOLUTION COPYRIGHT 2019